4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดขายแล้วในไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนชอบซื้อรถเป็นอย่างมาก โดยรถยนต์ลักษณะดังกล่าว ยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่องแบบไม่มีหยุดยั้ง เพื่อให้มนุษย์ได้สิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในอนาคต ว่ากันว่าการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า จะเป็นการลดความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องโลกร้อน ที่จะดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ วันนี้เราได้รวบรวมเอา 4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดขายแล้วในไทย มาแนะนำ ส่วนจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปดูพร้อมกันเลย
แนะนำ 4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดขายแล้วในไทย
จากการ แนะนำ 4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดขายแล้วในไทยรถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดขายแล้วในไทย นั้นมีรุ่นไหนบ้าง และรุ่นไหนที่น่าสนใจ

- MG ZS EV
มาเริ่มกันที่รถยนต์แบรนด์ MG กับรุ่น ZS EV กันเลย เรียกได้ว่าครั้งแรกที่เปิดตัว ก็สร้างความว้าวซ่าให้กับคนที่สนใจเรื่องรถเป็นอย่างมาก เพราะเปิดตัวมาด้วยราคา 1,190,000 บาท เท่านั้น แต่ฟังก์ชั่นบอกเลยว่าจัดเต็มแบบครบครัน และเจ้า ZS EV ก็ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรก ๆ ที่ปลุกกระแสรถไฟฟ้า ได้เป็นอย่างดี MG ZS EV โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ SUV ตามแบบฉบับของเอ็มจี สีตัวถังแบบพิเศษ “สีฟ้า Copenhagen Blue” ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำ กับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วได้เพียงปลายนิ้ว และระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีพละกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ด้วยระยะเวลาแค่ 3.1 วินาที และให้ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC หรือมาตรฐานการทดสอบความประหยัดน้ำมันและมลพิษของยุโรป) บอกเลยว่าเลิศสุด ๆ

2. Nissan Leaf
มาต่อกันที่รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายดังในญี่ปุ่นอย่าง Nissan Leaf กันบ้าง นี่ถือเป็นค่ายแรกที่นำเข้า และมีการจำหน่ายแบบเป็นทางการ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ชื่อว่า นิสสัน ลีฟ ว่ากันว่าครั้งแรกที่มีการเปิดตัว สามารถทำยอดขายถล่มทลายไปกว่า 40,000 คันเลยทีเดียว นิสสัน ลีฟ เป็นรถนำเข้าทั้งคัน โดยทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัดโดยตรง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า AC SYNCHRONOUS ขนาด 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขับเคลื่อนไปได้ไกลสูงสุด 311 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 1.99 ล้านบาท (นำเข้า CBU) แต่ด้วยราคารถที่นำเข้าทั้งคันอาจทำให้สูงกว่าคู่แข่ง จึงทำให้ผู้บริโภคอาจจะต้องคิดหนักในการตัดสินใจ น่าจะตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยได้อย่างดี

3. Audi e-tron
Audi ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ดังระดับโลก ซึ่งการเปิดตัวเจ้า Audi e-tron ก็สร้างเสียงเซอร์ไพรส์ให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครคาดฝัน ว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทยด้วย โดยรุ่นที่นำเข้ามาครั้งนี้ จะเป็น Audi e-tron 55 quattro ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่งที่ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิด 561 นิวตันเมตร และเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า แรงบิด 664 นิวตันเมตร ทำให้มั่นใจในสมรรถนะที่จะตอบสนองการใช้งาน และเติมอารมณ์สปอร์ตได้อย่างเต็มที่ พร้อมความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงแบบ ลิเธียมไออน 95 kWh ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 6.6 วินาที และ 5.7 วินาทีในบูสต์โหมด และทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. เลยทีเดียว

4. Jaguar I-PACE
ปิดท้ายกันที่ Jaguar I-PACE อีกค่ายที่มีการยเข้ารถยนต์ไฟฟ้า มาให้จับจองเป็นเจ้าของในประเทศไทย โดยบริษัทที่นำเข้ารถยนต์รุ่นนี้คือ อินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์จากัวร์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (2 ตัวแยกด้านหน้ากับด้านหลัง)พร้อมขนาดแบตเตอรี่ Lithium-ion ชนิด Pouch cells ที่มีน้ำหนักเบาและใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อย มีความจุ 90kWh ให้กำลังรวม 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสูงสุด 470 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเร่งความเร็ว 0-100 ได้ใน 4.8 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาเพียง 20-40 นาที ผ่านเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรง DC (Quick charge) หรือ ภายในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
นอกจากทั้ง 4 รุ่นนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นตัวเลือกของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่วางแผนจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ลักษณะดังกล่าว ขอแนะนำให้หาข้อมูลเยอะ ๆ และเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน ของท่านให้มากที่สุดนะคะ